พฤหัส. เม.ย. 18th, 2024

‘เอพี ไทยแลนด์’ โชว์ผลงานครึ่งปีแรกรายได้รวมกว่า 16,160 ล้านบาท

บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่อยู่อาศัยของคนเมือง ตอกย้ำผู้นำในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพ ประกาศความสำเร็จครึ่งปีแรก 2562 สร้างรายได้รวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (รวมโครงการร่วมทุน) กว่า 16,160 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิเท่ากับ 1,565 ล้านบาทยิ้มรับยอดขาย 7 เดือนแรกกว่า 24,000 ล้านบาท  มั่นใจตลาดอสังหาฯ ระดับกลางถึงบนดีมานด์ยังมีอยู่ ปรับแผนส่ง RHYTHM เจริญกรุง-พาวิลเลี่ยน มูลค่า 4,700 ล้านบาท เสริมพอร์ตคอนโดใหม่อีก 1 โครงการ พร้อมลุยตลาดอสังหาฯ ต่อด้วย 19 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 26,800 ล้านบาท และ 2 คอนโดไฮไลท์ LIFE สุขุมวิท62 และ LIFE วัน ไวร์เลส ที่เตรียมโอนกรรมสิทธิ์ดันรายได้โตตามเป้า

นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) เผยทัศนะต่อแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ ว่า “ภาพรวมตลาดอสังหาครึ่งปีหลังกำลังซื้อมีแนวโน้มกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มสินค้าระดับกลางถึงกลางบน ถ้าเป็นสินค้ากลุ่มคอนโดมิเนียมราคาเฉลี่ยไม่เกิน 200,000-250,000 บาทต่อตารางเมตร สินค้าแนวราบมีแนวโน้มที่จะได้รับการตอบรับที่ดี ทั้งกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม ระดับราคา 3-10 ล้านบาท ทั้งนี้ ผลการดำเนินงาน ในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เอพีสร้างรายได้รวมจากสินค้าแนวราบและกลุ่มคอนโด (100% JV) ได้สูงถึง 16,160 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิ (Net Profit) สูงถึง 1,565 ล้านบาทโดยหนึ่งในคีย์ไดรฟ์ยอดรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง จะมาจากการเริ่มทยอยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในโครงการLIFE สุขุมวิท 62 และ LIFE วัน ไวร์เลส โดยทั้ง 2 โครงการคาดว่าจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ได้ในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนนี้ เป็นต้นไป พร้อมกันนี้บริษัทฯ ได้ปรับแผนการเปิดคอนโดมิเนียมใหม่ โดยเพิ่มการเปิดตัว RHYTHMเจริญกรุง-พาวิลเลี่ยน โครงการร่วมทุนโครงการที่ 18 มูลค่า 4,700 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ มีโครงการ พร้อมรอเปิดตัวใหม่อีกรวมทั้งสิ้น 19 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 26,800 ล้านบาท”

สำหรับ ผลการดำเนินงานในช่วง 7 เดือนแรก บริษัทฯ สร้างยอดขายรวมได้แล้วถึง 24,060 ล้านบาทเพิ่มขึ้น14.7% หากเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยแบ่งเป็นยอดขายจากสินค้าแนวราบมูลค่า 14,000 ล้านบาท เฉลี่ยยอดขายต่อสัปดาห์ประมาณ 451 ล้านบาท ซึ่งถือว่าโตเกินจากเป้าหมายที่วางไว้อย่างมาก  และคอนโดมิเนียมมูลค่า 10,060 ล้านบาท ซึ่งยอดขายส่วนใหญ่มากจาก 4 โครงการใหม่ที่เปิดตัวไปแล้วอย่าง 1) Aspire สุขุมวิท-อ่อนนุช 2) Aspire อโศก-รัชดา 3) RHYTHM เอกมัย-เอสเตท และ 4) The Address สยาม-ราชเวที ที่ยังคงได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี อีกทั้ง บริษัทฯ ยังมีโครงการรอเปิดตัวใหม่อยู่ในแผนอีกรวมทั้งสิ้น 19 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 26,800 ล้านบาท โดยเป็นคอนโดมิเนียม 2 โครงการ ได้แก่ RHYTHM เจริญกรุง-พาวิวเลี่ยน (โครงการร่วมทุน) มูลค่า4,700 ล้านบาท เปิดในไตรมาส 4 และ LIFE สาทร เซียร์รา (โครงการร่วมทุน) มูลค่า 6,300 ล้านบาท เตรียมเปิดในต้นเดือนกันยายนนี้  และแนวราบอีกจำนวน 17 โครงการ มูลค่ารวม 15,800 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว 8 โครงการ มูลค่า 8,690 ล้านบาท และทาวน์โฮม 9 โครงการ มูลค่า 7,110 ล้านบาท

“ภาพรวมตลาดในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ทั้งอายุของคนซื้อที่ลดน้อยลงเรื่อยๆ และมีความต้องการที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ซึ่งเป็นอีกความท้าทายของผู้ประกอบการด้านอสังหาฯ ที่จะสร้างสรรค์ให้สินค้ามีความแตกต่าง โดดเด่นโดนใจผู้บริโภค โดยบริษัทฯ ยังคงมุ่งสู่เป้าหมายใหญ่ในการเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อันดับต้นๆ ของเมืองไทยที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการในทุกช่วงชีวิตของผู้อยู่อาศัยได้อย่างสมบูรณ์และครบวงจรที่สุด ภายใต้พันธกิจสำคัญ คือ การเติมเต็มการส่งมอบคุณภาพชีวิตแก่คนในสังคม อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ด้วยการยกระดับรูปแบบการดำเนินงานสู่การสร้างประสบการณ์อยู่อาศัยในอสังหาริมทรัพย์วิถีใหม่ๆ อย่างครบถ้วน ด้วยคุณภาพ ความสะดวกสบาย และความปลอดภัย เข้าถึงความหมายของคำว่าคุณภาพชีวิตที่ลูกค้าต้องการอย่างแท้จริง และยั่งยืนมากที่สุดนายอนุพงษ์กล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ การปรับแผนเปิดโครงการใหม่ทำให้ปี 2562 เอพีเปิดตัวโครงการใหม่รวม 35 โครงการใหม่ มูลค่า 57,000 ล้านบาท เป็นทาวน์โฮมจำนวน 17 โครงการ มูลค่า 14,840 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 12 โครงการ มูลค่า 15,060 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม6 โครงการ มูลค่า 27,100 ล้านบาท

ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2562 บริษัทฯ มีสินค้ารอรับรู้รายได้ (Backlog) รวมโครงการร่วมทุน มูลค่า 54,898 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบ มูลค่า 9,543 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรับรู้ทั้งหมดภายในปีนี้ และคอนโดมิเนียมรวมโครงการร่วมทุน มูลค่า 45,355 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดเอพี 4,899 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้ในปีนี้ประมาณ 1,873 ล้านบาท และคอนโดร่วมทุน 40,456 ล้านบาท รับรู้ในปีนี้ประมาณ 4,111 ล้านบาท โดยหนึ่งในคีย์ไดรฟ์ยอดรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลังจะมาจากการเริ่มทยอยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในโครงการ LIFE สุขุมวิท 62 และ LIFE วัน ไวร์เลส โดยทั้ง 2โครงการคาดว่าจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ได้ในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *