เสาร์. เม.ย. 20th, 2024

NEW MG EXTENDER แกร่ง แรง ออฟชั่นเพียบ

NEW MG EXTENDER จัดทดสอบความแกร่งบนเส้นทาง เชียงใหม่-นครสวรรค์-กรุงเทพฯ พิสูจน์ช่วงล่าง สมรรถนะการใช้งานที่เป็นมากกว่ากระบะ ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบโมเดิร์นดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเอ็มจี พร้อมมิติตัวถังขนาดใหญ่โดยมีทั้งแบบกระบะตอนครึ่ง (Giant Cab) ที่มีความยาวกระบะท้ายถึง 1,900 มิลลิเมตร ซึ่งยาวที่สุดในรถระดับเดียวกันจึงช่วยเพิ่มปริมาณการบรรทุกได้มากยิ่งขึ้น และแบบ 4 ประตู (Double Cab) พร้อมช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION ระบบกันสะเทือนด้านหน้าอิสระปีกนกคู่ (Double Wishbone) ด้านหลังแหนบแบบซ้อนแผ่น (Leaf Spring Suspension) ทำงานควบคู่กับช่วงล่างแบบ BRIT Dynamic ซึ่งให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ในความเร็วต่ำ และให้ความมั่นคงในการขับขี่ที่ความเร็วสูง เพิ่มความปลอดภัยและมั่นใจในการใช้งาน ในขณะที่ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ (Projector) มาพร้อม Daytime Running Lights บันไดข้าง และกล้องมองหลังพร้อมเซนเซอร์ขณะถอย ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานตั้งแต่ในรุ่น Giant Cab แบบยกสูง

ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย และเก็บเสียงดีเยี่ยมด้วยการออกแบบฉนวนกันเสียง 9 จุด การออกแบบภายในสร้างความรู้สึกแข็งแกร่งสอดคล้องกับรูปลักษณ์ภายนอกโดยใช้โทนสีเข้มและเพิ่มความเรียบหรูด้วยวัสดุที่ให้สัมผัสนุ่ม (SOFT TOUCH) พร้อมแผงหน้าปัดดีไซน์สปอร์ต นอกจากนี้ ยังมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น หน้าจอสีระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 10 นิ้ว กุญแจระบบ Smart Key พร้อมปุ่ม Push Start และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ โดยในรุ่น Double Cab ยังมาพร้อมเบาะปรับไฟฟ้าคู่หน้า เบาะหลังพับได้ และช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง

NEW MG EXTENDER ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล ไดเร็คอินเจ็คชั่น 2.0 ลิตร เทอร์โบ แปรผัน ให้กำลังสูงสุด 161 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิด 375 นิวตันเมตร พร้อมระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ และแบบธรรมดา 6 จังหวะ ที่สามารถปรับรูปแบบการขับขี่ได้ทั้ง ECO และ POWER เพื่อตอบสนองทุกการใช้งาน โดยในรุ่น Double Cab จะมีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2WD) และขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) ซึ่งมีโหมดการขับขี่ให้เหมาะกับสภาพถนน 3 รูปแบบ คือ 2H, 4H และ 4L

มาพร้อมระบบปฏิบัติการ i–SMART เอกสิทธิ์เฉพาะสำหรับผู้ใช้รถยนต์เอ็มจี ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่กับรถสามารถเชื่อมต่อกันได้ เพื่อความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การสั่งการ หรือ SMART Command ผ่านระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย ที่สามารถสั่งการให้โทรออก เปิด-ปิดหรือควบคุมระบบปรับอากาศ หน้าต่างฝั่งคนขับ ตลอดจนวิทยุภายในรถ รวมทั้งค้นหาจุดสนใจ นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมหรือสั่งการระบบต่างๆ ผ่านหน้าจอทัชสกรีนภายในรถ หรือเลือกสั่งการบนสมาร์ทโฟนผ่าน MG Mobile Application การเชื่อมต่อ หรือ SMART Connect ที่สามารถเลือกฟังเพลงผ่าน Online Music ค้นหาร้านอาหารและที่พัก รวมทั้งเรียกดูข้อมูลข่าวสารและเหตุการณ์ปัจจุบันจากเว็บไซต์ดังได้บนหน้าจอในรถ และการตรวจเช็กรถ หรือ SMART Check โดยสามารถสั่งล็อกหรือปลดล็อกประตู ตรวจสอบตำแหน่งและค้นหารถ แจ้งความผิดปกติ และแจ้งสถานะการทํางานของรถ รวมถึงระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ

โครงสร้างตัวถังแบบ FSF (Full Space Frame) แบบ Ultra-high Strength Body ด้วยโครงสร้างที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง Thermoforming Steel ในบริเวณเสา A ไปจนถึงเสา B และโครงสร้างโดยรวมใช้เหล็กแบบ High Strength Steel ที่มีความแข็งแกร่งสูง ช่วยเพิ่มความปลอดภัย และเสริมความมั่นคงในการขับขี่ พร้อมรับทุกสภาพการใช้งาน โดยผ่านการทดสอบการชนของ ANCAP ระดับ 5 ดาว และปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยดิสก์เบรก 4 ล้อ และระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป Advanced Synchronized Protection System ที่ทำงานประสานเป็นหนึ่งเดียว ประกอบด้วย

    • ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS (Anti-lock Braking System)
    • ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
    • ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake Force Distribution)
    • ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
    • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
    • ระบบตรวจสอบความผิดปดติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
    • ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
    • ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descend Control System)
    • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
    • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning System)

นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยรวม 6 ตำแหน่ง พร้อมเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ รวมถึงกล้องมองภาพรอบทิศทาง สัญญาณเตือนกะระยะด้านหลังและด้านหน้า และกล้องมองหลังช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *