อาทิตย์. พ.ค. 5th, 2024

มิตซูบิชิ เปิดตัว ปาเจโร่ สปอร์ต ใหม่

มร.โมริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เปิดตัว มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต ใหม่ ครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย โดย ปาเจโร่ สปอร์ต ใหม่ คือหนึ่งในรุ่นรถยนต์ที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ระดับโลก ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส โดยมียอดขายราว 77,000 คันทั่วโลกในปีงบประมาณ 2561 ที่ผ่านมา

มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต ใหม่ ผลิตขึ้นที่โรงงานแหลมฉบังของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย โดย มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต ใหม่ จะเปิดตัวเพื่อจำหน่ายใน 90 ประเทศ รวมถึง ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย และอื่นๆ

ปาเจโร่ ใหม่ มีรูปลักษณ์ภายนอกที่หรูหรา และทรงพลังยิ่งขึ้น พร้อมยกระดับภายในห้องโดยสารครบครันด้วยคุณภาพและความสบายเหนือระดับ เปิดจำหน่ายในประทเศไทย 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น 2WD GT จำหน่ายในราคา 1,299000 บาท รุ่น 2 WD GT Premium จำหน่ายในราคา 1,469,000 บาท และ  รุ่น 4WD GT Premium จำหน่ายในราคา 1,599,000 บาท ราคาปรับเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า 10,000-25,000 บาท ตั้งเป้ายอดขายไว้เดือนละ 1,300-1,400 คัน และจะเริ่มส่งออกในเดือน มีค.ปีหน้า

ชกกิ กล่าวเพิ่มเติมถึงยอดขายรถยนต์มิตซูบิชิในครึ่งปีแรก อยู่ที่ 45,000 คัน เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน คาดว่าทั้งปีจะมียอดขายอยู่ที่ 93,000-94,000 คัน ส่วนยอดส่งออกรวมมิตซูบิชิ เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 178,000 คัน ทั้งนี้ ภาพของตลาดรถยนต์โดยรวมครึ่งปีแรกอยู่ที่ 523,000 คัน หรือมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 7% ซึ่งต้องจับตาดูว่าครึ่งปีหลังจะปรับตัวไปในทิศทางใด ส่วนปัญหาภัยแล้งนั้น ขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบในทันที เพราะบางจังหวัดยังมีพายุฝน บางจังหวัดแห้งแล้ง ต้องรอดูสถานการณ์โดยรวมก่อน

สำหรับสถานการณ์ส่งออกของอุตสาหกรรมโดยรวมนั้นเป็นผลมาจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ค่าเงินบาทที่แข็งค่า แต่มิตซูบิชิไม่ได้รับผลกระทบใดๆ การส่งออกยังเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่ในอนาคตอาจจะมีแนวโน้มปรับเพิ่มค่าแรง ซึ่งตรงนี้ย่อมส่งผลต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ เพราะที่ผ่านมาเฉลี่ยค่าแรงเพิ่มขึ้น 6-7% หากภาครัฐจะทยอยปรับอย่างค่อยเป็นค่อยไปก็จะทำให้ภาคธุรกิจมีเตรียมตัว เหตุการณ์และเดินหน้าไปได้เช่นกัน ส่วนภาวะเศรษฐกิจของประเทศยังเดินหน้าต่อไปได้ แม้จีดีพีจะปรับลดลงก็ถือว่ายังมีอัตราการเติบโต

อย่างไรก็ตาม อยากให้รัฐเข้ามาดูแลอัตราแลกเปลี่ยนให้มีเสถียรภาพ รวมไปถึงเรื่องการปรับขึ้นค่าแรง เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมและการส่งออกสามารถแข่งขันได้ อีกทั้งเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ เนื่องจากประเทศไทยเป็นฐานการส่งออกรถยนต์ที่สำคัญไปยังตลาดโลก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *