Michelin เปิดมิติใหม่แห่งอนาคตการเดินทาง
Michelin ผู้นำระดับโลกด้านการผลิตวัสดุคอมโพสิตและการนำเสนอประสบการณ์การเดินทางเพื่อขับเคลื่อนชีวิตที่ดีกว่า จัดกิจกรรม Michelin Asia Pacific Media Day 2025 ภายใต้ธีม Michelin Beyond Performance ณ โรงงานมิชลิน หนองแค จังหวัดสระบุรี เจาะลึกแนวทางของบริษัทฯ ในการนิยามคำว่า “สมรรถนะ” ในมิติใหม่ ผ่านนวัตกรรม ความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน และการพัฒนาที่เน้นผู้คนเป็นศูนย์กลาง
มานูเอล ฟาเฟียง (Manuel Fafian) ประธานกลุ่มมิชลินประจําภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกเป็นผู้กล่าวเปิดงาน กล่าวว่า เส้นทางของมิชลินจากผู้บุกเบิกนวัตกรรมยางล้อ สู่การเป็นผู้นำระดับโลกด้านการผลิตวัสดุคอมโพสิตและการนำเสนอประสบการณ์เพื่อขับเคลื่อนชีวิตที่ดีกว่า “ความมุ่งมั่นของเราไม่ได้หยุดอยู่แค่เรื่องสมรรถนะ เรากำลังสร้างอนาคตที่ทุกผลิตภัณฑ์ ทุกโซลูชัน และทุกประสบการณ์ที่เราส่งมอบ จะช่วยสร้างหนทางที่ดีกว่าสำหรับผู้คน (People) ผลกำไร (Profit) และผืนโลก (Planet) งานสื่อมวลชนสัมพันธ์ในวันนี้คือเวทีที่แสดงให้เห็นว่าเรากำลังทำให้อนาคตนี้เป็นจริงได้”
วิสัยทัศน์ที่มีนวัตกรรมเป็นรากฐาน
นับตั้งแต่การร่วมสร้างสถิติความเร็วทางบกด้วยยานยนต์ไฟฟ้าในปีพ.ศ. 2442 จนถึงการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยียางล้อที่ยั่งยืนในปัจจุบัน มิชลินยังคงเดินหน้าผลักดันขีดจำกัดของนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยการบรรยายและเวิร์กช็อปภายในงานได้สะท้อนการเปลี่ยนผ่านของมิชลิน สู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโซลูชันวัสดุคอมโพสิตที่ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งการเดินทาง การดูแลสุขภาพ การบินและอวกาศ ไปจนถึงพลังงานคาร์บอนต่ำ
ซีริลล์ โรเฌต์ (Cyrille Roget) ผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมและการสื่อสารเชิงวิทยาศาสตร์ของมิชลิน นำเสนอความก้าวหน้าล่าสุดของกลุ่มมิชลินในการออกแบบยางล้อที่ยั่งยืน พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการประเมินวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ การใช้วัสดุชีวภาพ และการเพิ่มประสิทธิภาพแรงต้านทานการหมุน เขาชี้ให้เห็นว่า กว่า 80% ของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของยางล้อเกิดขึ้นระหว่างการใช้งาน ตอกย้ำถึงความจำเป็นในการให้ความสำคัญกับการออกแบบอย่างรอบด้านและกระบวนการผลิตที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
ขับเคลื่อนความยั่งยืน: มิชลินและพันธมิตรกับความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม
อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของงานคือเวทีเสวนาโดยพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ของมิชลิน ได้แก่ ดีเอชแอล (DHL), มนต์ทรานสปอร์ต (Mon Transport) และอินฟลูเอนเซอร์ SweetVarnVarn (หวานหวาน อรุณณภา พาณิชจรูญ) ที่มาร่วมเจาะลึกว่าความร่วมมือข้ามอุตสาหกรรมกำลังเร่งผลักดันความยั่งยืนในด้านโลจิสติกส์ การผลิต และการสัญจรได้อย่างไร ผ่านการริเริ่มโครงการร่วมกันเพื่อขยายผลการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ที่ยั่งยืน และวัดผลกระทบผ่านดัชนีชี้วัด (KPIs) และเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมที่มีร่วมกันในตลาดเกิดใหม่ การเสวนานี้ยังเน้นย้ำว่าค่านิยมที่ตรงกัน นวัตกรรม และวิสัยทัศน์ระยะยาว คือกุญแจสำคัญในการเอาชนะความท้าทายและสร้างผลลัพธ์ที่วัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม
เบื้องหลังสายการผลิตของมิชลิน: นวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี
ผู้เข้าร่วมงานยังได้เข้าชมเบื้องหลังการทำงานจริง ณ สองสายการผลิตหลักของมิชลิน ภายในโรงงานหนองแค ได้แก่ ยางล้ออากาศยาน และ ยางล้อรถบรรทุกและรถขนส่งผู้โดยสาร เปิดโอกาสให้เห็นถึงความมุ่งมั่นด้านนวัตกรรมและความยั่งยืนของมิชลินที่ถูกนำมาประยุกต์ใช้จริงในสายการผลิต ประสบการณ์พิเศษครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงเทคโนโลยีอันล้ำสมัยและวิศวกรรมความแม่นยำสูง ที่ขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์ของมิชลิน ซึ่งเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะและเป้าหมาย
